00.blog cover
12 May 2021 11:30

Audio Branding เริ่มสร้างภาพจำให้กับธุรกิจของคุณโดยการใช้เสียงดนตรี

Audio branding หรือ การนำเสียงต่าง ๆ มาใช้ในการสร้างภาพจำให้แบรนด์นั้น เป็นวิธีการทำการตลาดที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ทาง NewsCred เผยว่า ผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า สารโดพามีนจะหลั่งออกมาในร่างกายเราหลังจากที่ได้ฟังเพลงและทำให้ระดับสารเคมีในร่างกายนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลง จึงส่งผลให้เรารู้สึกดีเมื่อได้ยินเสียงเพลงนั่นเอง ในมุมมองของการทำธุระกิจ การเปิดเพลงที่คนหมู่มากรู้จักหรือกำลังเป็นที่นิยมในร้านค้า สามารถช่วยเวลาการเลือกซื้อสินค้าของลูกค้าได้ นอกจากธุรกิจร้านค้า เสียงดนตรีก็ยังมีประโยชน์ต่อธุระกิจอีกหลายประเภท เพราะเสียงดนตรีนั้นส่งผลต่ออารมณ์ของผู้ฟัง ดังนั้นการเลือกใช้เสียงที่ใช่หรือตรงกับคอนเซ็ปของแบรนด์ จะช่วยให้ลูกค้าจำแบรนด์สินค้าได้ง่ายขึ้น ทาง Getty Images ได้เห็นถึงปัญหาการเลือกใช้เสียงของหลายธุรกิจ จึงได้มีการจับมือร่วมเปิดแพลตฟอร์มใหม่กับทางบริษัทเพลง Epidemic Sound ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้ตัวแบรนด์สามารถค้นหาเสียงเพลงที่ใช่ได้ง่ายขึ้น



การทำวิดีโอ
วิดีโอจำเป็นต้องมีเสียงประกอบด้วยเพื่อสร้างความน่าดึงดูด อย่างเช่นในภาพยนตร์เงียบ ถึงจะไม่มีบทพูดเลย แต่ก็ได้มีการตัดต่อใส่เสียงเพลงและเสียงประกอบฉากต่าง ๆ เข้าไป เพื่อให้คนดูรู้สึกสนุก ตื่นเต้น และนั่งลุ้นอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้เสียงต่าง ๆ นั้นก็ได้ถูกนำมาใช้ในการสร้างและเซ็ตโทนของเรื่องราวมากมายในวงการมีเดีย ซึ่งมีทั้งการใช้เสียงประกอบฉากที่น่ากลัวในหนังสยองขวัญ การใช้เสียงตลกและประหลาดในหนังคอมเมดี้ การใส่เพลงประกอบเครดิตหลังหนังจบ การใส่เพลงสั้นประกอบโฆษณา และ การใช้เสียงในการแจ้งเตือนข้อผิดพลาดของซอฟต์แวร์



เมื่อเป็นเรื่องของการใช้เสียงประกอบในการทำการตลาดนั้น ผลการสำรวจของ Spotify เผยว่า แบรนด์ที่เลือกใช้เพลงหรือเสียงประกอบที่ตรงกับคอนเซ็ปของแบรนด์ จะทำให้ลูกค้ากว่า 96% จำตัวแบรนด์ได้ดี เมื่อเทียบกับแบรนด์ที่ใช้เสียงหรือเพลงที่ไม่เข้ากับตัวแบรนด์หรือแบรนด์ที่ไม่ใช้เพลงประกอบเลย และลูกค้าอีก 24% มักจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ที่พวกเขาสามารถจดจำตัวแบรนด์ดิ้งได้จากเสียงดนตรีประกอบนั่นเอง นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ว่าทำไมการสร้างกลยุทธ์การตลาดที่ดีด้วยรูปแบบของวิดีโอนั้นจึงจำเป็นต้องมีเสียงประกอบที่เหมาะสม

บริษัทเพลง Epidemic Sound มีบริการแพลตฟอร์มเพลงที่ลูกค้าสามารถเลือกใช้เพลงและเสียงหลากหลายประเภทได้จากคลังเพลงและคอลเลคชั่นต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้กับโปรเจ็คต์ของธุรกิจตนเองได้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีและมีประโยชน์ต่อการทำโปรเจ็คต์ประเภทวิดีโอเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นโปรเจ็คต์หนังสั้น การทำโฆษณาในโซเชียลมีเดีย หรือการสร้างคอนเทนต์ทั่วไป นอกจากนี้ การมีตัวเลือกเพลงในสต็อกที่หลากหลายจาก Epidemic Sound นั้น ก็ยังแปลว่าลูกค้าไม่ต้องไปกังวลถึงเรื่องค่าใช้จ่ายของลิขสิทธิ์เพลงและเสียงต่าง ๆ อีกด้วย



พอดแคสต์ และโฆษณาประเภทเสียง
ในอดีต โฆษณาประเภทเสียงค่อนข้างจำกัดที่จะจำนวนผู้ฟังเพราะช่องทางเดียวที่ทำได้คือการโฆษณาผ่านสถานีวิทยุ แต่ในปัจจุบัน ช่องทางของการโฆษณาประเภทเสียงนั้นมีเพิ่มขึ้นมากมาย เช่น การโฆษณาผ่าน พอดแคสต์ หนังสือเสียง สถานีวิทยุออนไลน์ และ แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งต่าง ๆ ซึ่งทำให้การโฆษณานั้นเผยแพร่กว้างขวางขึ้น ทาง Branding Mag เผยว่า การทำการตลาดดิจิทัลแบบใช้เสียงประกอบด้วยนั้นสามารถวัดและติดตามตัวเลขของกลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายได้ดี ซึ่งการตลาดแบบดิจิทัลที่ว่านี้แตกต่างจากการทำการตลาดแบบดั่งเดิม

การใช้เกณฑ์การกำหนดเป้าหมายที่เป็นมาตรฐานในการติดตามผลตอบรับของลูกค้า เช่น การดูจำนวนประชากรในแต่ละพื้นที่ การดูเรื่องสถานที่ และอุปกรณ์นั้น สามารถทำให้นักการตลาดมั่นใจในผลตอบรับของคอนเทนต์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อการโฆษณาได้ เพราะช่องทางของการโฆษณาที่หลากหลายขึ้นสามารถช่วยยิงโฆษณาของคุณให้ตรงตามกลุ่มเป้าหมายของลูกค้าที่ตัวแบรนด์ต้องการได้ Midroll Media เผยว่า 60% ของผู้ฟังที่ได้ยินโฆษณาจากทางพอดแคสต์นั้น มักจะตัดสินใจซื้อสินค้าหลังจากได้ยินโฆษณา และ นอกจากนี้การโฆษณาแบรนด์หรือสินค้าผ่านทางพอดแคสต์ยังให้ผลตอบรับดีกว่าการโฆษณาผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียอื่น ๆ มากถึง 4 เท่า ทั้งหมดนี้ก็คือเหตุผลที่ว่าทำไมการเลือกหาเสียงหรือดนตรีให้เหมาะสมกับตัวแบรนด์และสินค้านั้นถึงเป็นเรื่องสำคัญ 

คำแนะนำด้านการเลือกเสียง : ด้วยแพลตฟอร์มเพลง Epidemic Sound คุณสามารถค้นหาเสียงที่เหมาะกับคอนเทนต์และความยาวของวิดีโอของคุณได้อย่างง่ายดาย และคุณยังสามารถแก้ไขและตัดต่อเสียงที่คุณต้องการหรือคิดว่าเหมาะลงในโปรเจ็คต์ของคุณได้อีกด้วย



การทำคอนเทนต์อื่น ๆ
การใส่เพลงหรือเสียงประกอบนั้นก็มีประโยชน์กับการทำคอนเทนต์รูปแบบเขียนเช่นกัน การนำโพสต์ต่าง ๆ ในบล็อกมาอ่านและอัดเสียงลงพอดแคสต์นั้น จะช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าและผู้ฟังที่มากขึ้น บล็อกเกอร์สามารถเลือกเสียงเพลงประกอบการเล่าเรื่องในการขายแบรนด์ ซึ่งตัวแบรนด์เองก็ควรจะมีเพลงหรือเสียงประกอบเพื่อสร้างภาพจำและเอ็นเกจเมนต์กับลูกค้าใหม่ ๆ อีกด้วย

คำแนะนำเพิ่มเติมด้านการเลือกเสียง : ในอนาคต แน่นอนว่าจะมีการใช้เพลงและเสียงประกอบใน Augmented Reality (AR) หรือ การผสมผสานโลกแห่งความเป็นจริงและความเสมือนจริงเข้าด้วยกันผ่านเทคโนโลยี และ Virtual Reality (VR) หรือเทคโนโลยีการจำลองภาพให้เสมือนจริง ด้วยภาพ 360 องศา ผ่านอุปกรณ์แว่นตาที่มากขึ้น ในปัจจุบัน ตัวอย่างของเทคโนโลยีเหล่านี้ก็คือ Amazon Alexa หรือ ระบบผู้ช่วยเสมือน (Virtual Assistant) ที่มาในรูปแบบของลำโพง มีความสามารถหลายอย่าง ซึ่งผู้ใช้สามารถสั่งการด้วยเสียง เทคโนโลยีประเภทนี้เป็นตัวสร้างความเปลี่ยนแปลงในกลุ่มการตลาดของ Business-to-Business (B2B) และ Business-to-Consumers (B2C) อีกด้วย 



พร้อมที่จะยกระดับคุณภาพเสียงประกอบของแบรนด์คุณรึยัง ? มาเริ่มใช้แพลตฟอร์มเพลงของ Getty Images กัน เพียงแค่ลงชื่อสมัครใช้งานและเลือกบัญชีแบบ premium account คุณก็สามารถเลือกเพลงและดนตรีมาใช้ได้แบบไม่มีลิมิต เพราะแพลตฟอร์มเพลงนี้ มีบริการให้เลือกใช้เพลงมากกถึง 30,000 เพลง และเสียงประกอบอีกมากกว่า 60,000 เสียง จากทางบริษัทเพลง Epidemic Sound ซึ่งจะช่วยให้คุณหาเสียงที่เหมาะสมที่สุดให้กับโปรเจ็คต์ของคุณได้อย่างง่ายดาย

รับเทรนด์ภาพและข้อเสนอพิเศษจาก Getty Images : คลิกเพื่อรับข้อเสนอดีๆ

บทความจาก Getty Images
#GettyImages

เสียง, AudioBranding