7 วิธีแก้ไขตัวเอง แล้วคุณจะประสบความสำเร็จในงาน

การปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไม่มีเป้าหมายในแต่ละวัน ถือเป็นเรื่องที่อันตรายทั้งต่อตัวคุณเอง และหัวหน้างานของคุณ ซึ่งมันช่างไม่มีผลดีเลยทีเดียว  โดยถ้าหากคุณเป็นพนักงานเงินเดือน คุณควรมี Timeline ในแต่ละวัน และควรทำให้แผนที่คุณวางนั้นสำเร็จไปตามที่วางไว้ หากจำเป็นต้องเลื่อนวันในการส่งงานเนื่องจากเหตุผลอื่นๆ คุณก็ควรที่จะตั้งเดทไลน์ใหม่ ถือว่าการตั้งเป้าหมายในแต่ละวันของตัวเองนั้นจะไม่ทำให้คุณเบื่อกับงานที่พอกหางหมู ยังจะทำให้คุณฝึกนิสัยที่ดีในการทำงานและเพื่อนร่วมงานจะรักเมื่อทำงานกับคุณ

หากตัวเราอยากพัฒนาตนเองเพื่อให้ไปสู่ความสำเร็จที่ตั้งไว้สิ่งหนึ่งที่ควรมี คือ ต้องรู้จักมองคนที่อยู่ไกลตัวออกไปไม่ใช่มองแค่คนที่อยู่รอบตัว เช่น เพื่อนฝูงที่ประสบความสำเร็จเป็นหัวหน้า เป็นเจ้าของกิจการเล็กๆ  แต่หากจะไปให้ไกลกว่าควรมองให้เห็นถึงระดับเจ้าของบริษัท เจ้าของกิจการระดับโลก โดยศึกษาว่ากว่าพวกเค้าเหล่านี้จะมาประสบความสำเร็จได้มีวิธีอย่างไร  จากนั้นจึงนำเอาตัวอย่างความสำเร็จของคนเหล่านั้นมาเป็นต้นแบบหรือแรงบันดาลใจ แต่สำคัญกว่านั้นคือ "การลงมือทำ" ด้วย

ผิดหวัง , ล้มเหลว เป็นบ่อเกิดของความจมปลักทั้งชีวิต หากคุณไม่รีบขจัดมันออกไป

แต่จงมองว่า "ความล้มเหลวเป็นตัวชี้ข้อผิดพลาดที่เราเคยทำผ่านมา มันคือทางผ่าน" เป็นเรื่องของขบวนการ ไม่ได้เป็นจุดจบของทั้งชีวิต อย่าตีความว่านั้นต้องเป็นเครื่องแสดงความอัปยศไปตลอดชีวิต อย่าทิ้งบทเรียนที่ได้มา หรือความตั้งใจแรกในการทำสิ่งนั้น จงใช้ความล้มเหลวเป็นแนวทางในการก้าวข้ามข้อผิดพลาดเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการนั้นอีก

การอยู่ใน Comfort Zone หรือมีเพื่อนแวดล้อมเดิมๆ ไม่เจอการท้าทายหรือคนที่เก่งกว่า อาจะทำให้เราไม่พัฒนาเท่าที่ควร แต่การมีเป้าหมายถือเป็นเรื่องที่ดี เป็นก้าวแรกไปสู่ความสำเร็จ แต่นั่นยังไม่เพียงพอเพราะการลงมือทำคนเดียวสิ่งที่เราคิดว่า เก่ง ฉลาด มีความสามารถในตัวเองแล้ว เมื่อลองได้เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในกลุ่มคนที่ประสบความสำเร็จ จะทำให้รู้เลยว่าประสบการณ์ที่เรามีเป็นพียงส่วนน้อยนิดเท่านั้น ดังนั้นเราต้องพยายามขวนขวายพัฒนาตนเอง อย่าอายที่จะขอคำปรึกษาจากคนที่เก่งกว่า หรือประสบความสำเร็จแล้ว

การรับฟังแต่คำชื่นชมอาจส่งผลร้ายให้เราหลงอยู่ในวังวลไม่พัฒนา การรับฟังคำวิจารณ์ตรงอาจทำให้เราเสียความรู้สึกแต่นั่นจะเป็นแรงผลักดันที่ดี ที่จะทำให้เราสามารถกลับมาพัฒนาในข้อบกพร่องที่มองไม่เห็นได้ จงอย่าคิดว่าคำดุด่าหรือคำพูดรุนแรงเป็นบ่อนทำลายชีวิตในทางตรงกันข้ามสิ่งเหล่านี้คือตัวจุดกระตุ้นไฟให้ลุกโชนและแก้ไขสิ่งที่บกพร่องให้ดียิ่งขึ้นได้

มนุษย์สัมพันธ์ แสดงออกได้หลากหลายระดับ มองออกว่าจริงใจหรือแกล้งทำ การทำงานประจำหรือการทำธุรกิจส่วนตัว ย่อมต้องมีเครือข่าย connections เราไม่มีทางรู้ว่าคู้ค้าหรือเพื่อนร่วมงานเป็นคนอย่างไร หากคุณไม่มีมนุษย์สัมพันธ์การเข้าหาสังคม ดังนั้น จงเรียนรู้ทักษะการเข้าสังคม การแสดงความคิดเห็น การพูดคุยเจรจา เพื่อพัฒนาตนเองให้ดูเป็นมืออาชีพ และน่าเชื่อถือ

เหตุผลที่แท้จริงที่เราเริ่มทำธุรกิจนี้คืออะไร? หรือเหตุผลที่คุณกำลังทำงานอยู่นั้น คุณมีเป้าหมายกับชีวิตอย่างไร  เหตุผลนั้นจะเป็นสิ่งที่สำคัญ คนที่ทำธุรกิจเพียงเพราะต้องการเงินไม่สามารถอยู่กับมันได้ยาวนาน   หรือแม้แต่ทำงานประจำเพียงเพราะต้องการเงินในทุกสิ้นเดือน  คุณก็จะไม่ก้าวหน้ากับงานที่คุณกำลังทำ  แต่หากเราเริ่มต้นธุรกิจหรือทำงานโดยมีเป้าหมายบางอย่าง การโฟกัสไปที่เหตุผลนั้นจะช่วยให้คุณเติบโตขึ้นได้ เมื่อเราสร้างธุรกิจจากการให้ เราจะเติบโตขึ้นได้เร็วและเป็นที่ยอมรับจากทุกคนไม่ว่าจะเป็น คู่ค้า พนักงาน หรือบุคคลอื่นๆที่มีความเกี่ยวข้องในธุรกิจของเราเอง