เรื่องเล่าหลังงาน Pink Cloud Festival เทศกาลดนตรีกลิ่นอายออสซี่ ที่ดิบและสนุกที่สุด

แม้งาน Pink Cloud Festival เทศกาลดนตรีอัลเทอร์เนทีฟ ที่จัดครั้งแรกโดย Wildest Youth จะเพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อไม่นานมานี้ ต้องบอกเลยว่า ดิบ และ สนุกที่สุด ได้กลิ่นอายความเป็นออสซี่เฟสติวัลเลยล่ะ Eventpop เลยไม่พลาดที่จะนำภาพบรรยากาศมาฝากกัน

เรามุ่งหน้าไปที่งาน ด้วยรถ Shuttle Bus ที่รับส่งจาก RCA ไปที่ ไทยเวคพาร์ค ถือว่าสะดวกมากสำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือไปเองหลงทางแน่ถ้าไม่มีเพื่อนไปด้วย ซึ่งกว่าจะถึงที่งาน Abuse The Youth ก็เล่นเกือบจบแล้วอะ เป็นวงที่ส่วนตัวตั้งใจอยากดูมาก ได้ดูทันนี่ถือว่าแต้มบุญยังมี ในขณะที่เวทีเล็ก Garden Stage ได้มีโอกาสดู Daniel Didyasarin โชว์สดๆ ในขณะที่บรรยากาศโดยรอบ เต็มไปด้วยคนที่รักในการฟังเพลงแนวเดียวกัน รวมไปถึงเพลิดเพลินไปกับการชมกีฬาเอ็กซ์ตรีม ท่ามกลางบรรยากาศแบบ Summer Festival ของแท้ เพราะในขณะที่โชว์กำลังรันไป อากาศดูท่าจะไม่ค่อยเป็นใจ ฝนตกลงมาจนทำให้เวทีเล็กไม่สามารถทำการแสดงต่อได้ ในขณะที่เวทีใหญ่ก็ยังคงรันโชว์ต่อไป

วง Abuse The Youth

Daniel Didyasarin

Verge Collection

ศรีราชา ร็อกเกอร์

Verge Collection อีกหนึ่งวงจากออสเตรเลียที่ชวนทุกคนมาสนุกกันแบบไม่แคร์ฟ้าฝน เราเกาะรั้วหน้าเวทีเพื่อดูโชว์อย่างเพลิดเพลิน ต่อด้วย ศรีราชา ร็อกเกอร์ ที่ชวนทุกคนมาเอนจอยกัน ท่ามกลางสายฝนโปรยปราย และขอบอกว่าคนดูพร้อมใจกันสนุกแบบเปียกๆ ได้ฟีลไปอีกแบบ แม้ฝนไม่ทีท่าที่จะหยุด และเวทีเล็ก ยังมีอีกหลายศิลปินที่ต้องเลื่อนโชว์ออกไป สุดท้ายผู้จัดงานตัดสินใจย้ายเวทีเล็กมาตรงลานจอดรถแทน 

ในขณะที่เวทีเล็กที่กำลังย้ายเข้ามาในร่ม เวทีใหญ่ยังคงทำการแสดงต่อ หลังจากจบศรีราชาร็อคเกอร์ ก็มาต่อกันเลยที่ Turnover ที่ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของพวกเขา และในงาน Pink Cloud พวกเขาก็จัดโชว์สุดเจ๋งสมกับการรอคอย ซึ่งพวกเขาเองก็รู้สึกดีใจที่แฟนๆชาวไทย ให้การต้อนรับ และก็ดีใจที่ได้มาแสดงสดในไทยอีกครั้ง

กลับไปที่เวทีเล็กอีกครั้ง ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงตารางโชว์โดยเริ่มที่ Thud วงดนตรีสไตล์ shoegaze จากฮ่องกง ต่อด้วย Death of Heather ที่ตอนแรกอยู่เวทีเล็ก เลยย้ายมาอยู่ที่เวทีใหญ่ ต่อเนื่องกันไปเลย ใครที่ชอบดนตรีแบบล่องลอย เป็นอีกวงที่เราขอแนะนำ 

มาต่อที่ Gymshorts กันเลย พวกเขาคือวงพังก์จากอเมริกา ความเจ๋งของโชว์นี้อยู่ที่ ฟร้อนท์เกิร์ลสาวสุดซ่า ที่ทำเอาหลายคนร่วมตะโกนร้องเพลงกันสนั่น ไม่เพียงเท่านั้น คนดูก็ร่วมมอชพิชกันอย่างสนุกสนาน สนุกจนการ์ดต้องรีบชาร์จตัวคนดูที่มายืนงงข้างนักร้องนำ สุดจริงๆ ต่อกันที่ Hockey Dad จากออสเตรเลีย เป็นอีกโชว์ที่สนุก ศิลปินเองก็โต้ตอบกับคนดูตลอดทั้งโชว์ อย่าให้ขาดช่วง เพราะเหลืออีก 2 ศิลปิน นั่นก็คือ Beddy Rays พสพังค์และการาจร็อก ที่เอนเตอร์เทนคนดูแบบถึงใจ ก่อนส่งท้าย Pink Cloud Festival ในปีนี้ด้วยโชว์จาก Dune Rats 

แม้เรื่องดินฟ้าอากาศจะเป็นอุปสรรคไปบ้าง แต่ขอชมเรื่องการแก้ปัญหาที่ดี เลยทำให้การย้ายเวที Garden Stage มาอยู่ในลานจอดรถ กลายเป็นความสนุกที่ใกล้ชิดกับศิลปินมากกว่าเดิม บรรยากาศเป็นกันเองเหมือนมาดูเพื่อนเล่นดนตรี เพราะแต่ละวงที่โชว์จบ ก็จะแว้บมาดูโชว์ของวงอื่นๆด้วยเช่นกัน ในขณะที่ผู้ชมส่วนใหญ่แม้จะพอทราบอยู่แหละว่าฝนคงตกแน่นอน แต่หาได้แคร์ไม่ ขอบคุณ Wildest Youth ที่จัดงานดีๆแบบนี้ให้เราได้ไปสัมผัสบรรยากาศใหม่ๆ ได้ข่าวตอนนี้ในเพจ Pink Cloud Festival ก็เริ่มมีการแย็บถามถึงศิลปินที่อยากดูในปีหน้าแล้ว งานสนุกมาก อยากให้จัดอีกทุกๆปี 

แต่ถ้ายังรู้สึกค้างคาจากงานที่เพิ่งผ่านพ้นไป มาต่อกับ After Party ในวันที่ 4 มิถุนายนนี้ กันดีไหม ที่ Noma RCA

พบกับ Beddy Rays อัลเทอร์เนทีฟ/พังค์สุดเดือดดจาก Redland Bay, ออสเตรเลีย โพสพังค์และการาจร็อกชวนโยกที่ได้รับอิทธิพลมาจากวงอย่าง British India, Catfish and the Bottlemen และ Bad//Dreems หลังจากโชว์สุดเดือดและเจ้าของตำนานการนำเข้าวัฒนธรรม Shoey* เป็นเจ้าแรกในงาน Pink Cloud Festival ใครที่ยังไม่หนำใจกับโชว์ของพวกเขาและอีกหลายๆคน เราเลยขอแถมให้ทุกคนอีกโชว์ก่อนส่งวงกลับบ้าน พร้อม 3 ศิลปิน Special Guest อย่าง The Darkest Romance, Pistols99 และ Pretty Punks บัตรราคา 200 บาท พิเศษ สำหรับผู้ที่มีริสแบนด์ของงาน Pink Cloud Festival รับสิทธิ์เข้างานฟรี

เรื่อง / ภาพ : Ryu Ryan

*เกี่ยวกับ Shoey

เป็นวัฒนธรรมการดื่มของชาวออสเตรเลีย ที่สามารถเป็นได้ทั้งการลงโทษและการเฉลิมฉลอง นิยมกันมากในงานปาร์ตี้และตามเทศกาลรวมไปถึงการแข่งขันต่างๆ โดยเครื่องดื่มที่รินใส่รองเท้ามักเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์